การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำเอาทั่วโลกสั่นสะเทือนไปทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการกีฬาที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมการแข่งขันที่ต้องถูกยกเลิกไป หรือแม้กระทั่งเรื่องของการเข้าชมในสนามของแฟนบอลที่ยังไม่มีท่าทีใดๆ เกี่ยวกับการอนุญาตในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่แฟนบอลแทบจะเป็นปัจจัยหลักในการสร้างการแข่งขันให้มีความสนุก และมีอารมณ์ร่วมอย่างเต็มที่
แบลส มาตุยดี้ กลายเป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่ออกมากล่าวยอมรับว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป หลังจากตัดสินใจ ย้ายออกจาก ยูเวนตุส หลังจากหมดสัญญา และเลือกย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ที่มี เดวิด เบ็คแฮม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร
นักเตะดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 กับทีมชาติฝรั่งเศส ยุติการลงเล่น ในอิตาลี หลังทีมตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อกลายเป็นโอลิมปิก ลียง ที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 2-2 ตามกฏอเวย์โกล ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา โดยมาตุยดี้ ออกมาเปิดเผยถึงการพูดคุยกับเบ็คแฮม ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และทำให้ตัวเขากระตือรือร้นในการไปร่วมงานกันอีกครั้ง หลังจากเคยเล่นด้วยกันที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
มาตุยดี้ กล่าวว่า “การติดต่อกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม มันเป็นความสัมพันธ์ของผมกับเดวิด เขาโทรมาหาผม ถามผมถึงความสนใจ ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า มันยังเร็วเกินไปในอาชีพของผม ฟุตบอลยูโรกำลังจะมาและมันเป็นปัญหาของโควิด มันทำให้มันไม่เกิดขึ้น สำหรับผมมันชัดเจนว่าผมจะอยู่ที่ยูเวนตุส พวกเขากลับมาหาผมในเดือนมิถุนายน โดยบอกว่าพวกเขายังสนใจผมมากๆ เดวิดต้องการผมจริงๆ เขาบอกว่าผมจะเป็นชาวฝรั่งเศสคนแรกที่ได้ใส่เสื้อให้กับทีมด้วย”
“ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไป การกักตัวทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าผมคิดถึงครอบครัวขนาดไหน กับครอบครัวของผม ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาก็รักผม แต่หลังจากล็อคดาวน์ พวกเราต้องห่างกัน 2 เดือน มันทำให้ผมแข็งแกร่งกว่าเดิม ผมบอกกับตัวเองว่า ผมต้องใช้ประโยชน์จากเด็กๆ ของผม การคิดถึงพวกเขาเป็นลำดับแรก แม้พวกเขาจะสนุกในอิตาลี แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไป มันทำให้ผมได้ทบทวนอาชีพของผมและตั้งคำถามว่า ‘คุณยังต้องการอะไรอีก?’”
“เขา (เดวิด) บอกกับผมว่าเขามีความสุขมากๆ กับการเซ็นสัญญากับผม เขาจะอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือผม มันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับการเล่นให้กับสโมสร เดวิดเป็นตัวอย่างที่น่ายกย่องทั้งในและนอกสนาม นั่นคือเส้นทางที่ผมอยากเดินไป”